แอร์การ์ด

แอร์การ์ด
ท่องโลกอินเตอร์เน็ทง่ายกว่าที่คุณคิด

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เลสเตอร์ สถิติดีเหลือร้าย แกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

เลสเตอร์

ฟุตบอลแชมเปียนชิพได้เบิร์นลีย์ คัมแบ็กกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ส่วนมิดเดิลสโบรช์ กับไบรท์ตัน มาดวลกันในนัดสุดท้ายชิงตั๋วพรีเมียร์ลีกอัตโนมัติเมื่อวันเสาร์ ขณะเขียนต้นฉบับผมยังไม่ทราบผล แต่ก็อย่างที่เรียนไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า คู่นี้มีเดิมพันก้อนโต สื่ออังกฤษบอกว่า มีมูลค่าถึง 200 ล้านปอนด์ หรือราว 10,000 ล้านบาท ยิ่งกว่านัดชิงแชมเปียนส์ลีกเสียอีก

วงเงินดังกล่าวคำนวณจากรายได้ในพรีเมียร์ลีกที่จะได้เพิ่มขึ้นจากฤดูกาลนี้ เพราะเป็นปีที่เริ่มต้นลิขสิทธิ์ทีวีรอบใหม่ แต่ละทีมจะได้ส่วนแบ่งมหาศาลมากกว่าฤดูกาลนี้

ส่วนบรรยากาศการฉลองแชมป์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ตามกฎพรีเมียร์ลีก นักเตะที่จะได้เหรียญแชมป์ต้องลงเล่นไม่ต่ำกว่า 5 นัด แน่นอนว่า นักเตะสำรองบางรายจะไม่ได้เหรียญ โดยเฉพาะมาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารจอมเก๋าชาวออสซี
ที่อยู่กับทีมแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน จากฤดูกาลที่แล้วที่นั่งสำรองในทีมเชลซี

ปีก่อนเชลซีจัดทำเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกจำลองให้ชวาร์เซอร์เป็นที่ระลึก ปีนี้คาดว่า  ก็คงจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน

ส่งท้ายวันรับถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการ มีสถิติน่าสนใจของทีมจิ้งจอกสยามมาฝากกันอีกครั้ง โดยเว็บไซต์ football 365 รวบรวมเอาไว้ดังนี้ครับ

เลสเตอร์ เป็นทีมที่ไม่ได้มาจากลอนดอนและแมนเชสเตอร์ ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แบล็กเบิร์นพลิกโผคว้าแชมป์เมื่อปี 1995

ราคาต่อรอง 5,000/1 ที่บ่อนลูกหนังตั้งไว้ก่อนเปิดฤดูกาลว่า เลสเตอร์ จะคว้าแชมป์ เป็นราคาที่ห่างไกลสุดกู่ในวงการกีฬาที่เคยมีมา และทีมรองบ่อนอย่าง เลสเตอร์ ทำสำเร็จ

เคลาดิโอ รานิเอรี คุมทีมต่างๆมา 28 ปี เลสเตอร์ เป็นทีมที่ 13 ของเขา แต่เขาไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดกับทีมไหนเลยจนกระทั่งทำได้กับ เลสเตอร์

ย้อนกลับไปตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่ง เลสเตอร์ กำลังหนีตกชั้นมาจนถึงการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ ตลอดระยะเวลา 1 ปี มีแค่ 3 ทีมที่เอาชนะ เลสเตอร์ ได้ ประกอบด้วยเชลซี, อาร์เซนอลและลิเวอร์พูล

เลสเตอร์ มีสถิติครองบอลน้อยกว่าคู่แข่ง รั้งอันดับ 18 ในบรรดา 20 ทีมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ผ่านบอลน้อยแต่มีประสิทธิภาพในการทำประตูจากเกมโต้กลับ

ริยาด มาห์เรซ เป็นนักเตะแอฟริกันคนแรกที่ได้รางวัลนักเตะแห่งปีของพีเอฟเอ (สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ) เขามีค่าตัวแค่ 400,000 ปอนด์ เทียบกับค่าเหนื่อยเวย์น รูนีย์ ที่ได้รับสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์

โรเบิร์ต ฮูธ เป็นนักเตะคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ได้แชมป์กับ 2 สโมสร หลังจากเคยได้กับเชลซี 2 สมัย ส่วนมาร์ค ชวาร์เซอร์ ถึงจะไม่ได้รับเหรียญแต่เขาก็เป็นนักเตะคนแรกที่อยู่ในทีมแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่เอริก คันโตนา ได้แชมป์ลีกสูงสุดกับลีดส์และแมนฯยูในปี 1992-93

เวส มอร์แกน เป็นนักเตะจาเมกาคนแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และมาห์เรซเป็นแอลจีเรียคนแรกที่ได้แชมป์เช่นกัน

ชินจิ โอกาซากิ เป็นนักเตะญี่ปุ่นคนที่ 2 ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกต่อจากชินจิ คางาวะ ที่ได้กับแมนฯยู ส่วน เลสเตอร์ เป็นทีมแรกที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกของอังกฤษต่อจากฟอเรสต์ ที่เป็นแชมป์ปี 1978

และสถิติที่เหลือเชื่อที่สุดคือ เลสเตอร์ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้!

โต้ บ้านแหลม


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/616934

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น