แอร์การ์ด เชื่อมต่อผ่านช่อง USB |
แอร์การ์ด (Aircard) ตามท้องตลาดนั้นมีหลากหลายยี่ห้อหลายรุ่นหลายขนาด บางอันก็มีดีไซด์สีสันสวยสดใสและราคาก็แตกต่างกันออกไป จึงทำให้หลายๆคนเกิดคำถามว่า แล้วเราจะเลือกรุ่นไหนดีล่ะ?
วิธีเลือกซื้อ แอร์การ์ด (Aircard)
จนมาถึงตอนนี้คงเกิดคำถามขึ้นมามากมายว่า เอ๊ะ!!? แล้ว แอร์การ์ด (Aircard) ที่ราคาแพงๆ ต้องดีกว่าเสมอไปหรือป่าว? เราสามารถบอกตรงได้เลยครับว่า... ไม่เสมอไป เพราะบางรุ่นอาจจะมีต้นทุนในการผลิตต่ำแต่เวลาขายอาจบวกราคาขึ้นกว่ารุ่นอื่นเพราะเป็นสินค้าแบรนด์เนม ดังนั้นการเลือกซื้อ แอร์การ์ด ควรจะมองไปที่ 4 ปัจจัยหลักดังนี้
เมื่อแกะฝาหลังของ แอร์การ์ด ก็จะพบช่องใส่ซิม |
1. เครือข่ายที่รองรับ
เครือข่ายในบ้านเราหลักๆ ตอนนี้มีเครือข่าย AIS TRUE และ DTAC อีกไม่นานระบบ 2G จะไม่สามารถใช้ได้แล้วใช้ได้เพียงแค่ 3G ซึ่งทาง AIS และ DTAC รองรับ 3G ที่ความถี่ 2,100 MHz ส่วน TRUE จะรองรับที่ความถี่ 850 MHz และ 2,100 MHz ดังนั้นตอนเลือกซื้อควรดูความถี่ดีๆ ว่า แอร์การ์ด (Aircard) รุ่นนั้นรองรับความถี่เท่าไรบ้าง เพื่อที่เราจะสามารถซื้อแล้วสามารถนำไปใช้งานได้
2. ความเร็ว
ความเร็วของ แอร์การ์ด จะบอกเป็นหน่วย Mbps เช่น ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 21.6 Mbps หมายถึงในหนึ่งวินาทีสามารถดาวน์โหลดข้อมูลอินเตอร์เน็ทไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปไฟล์วีดีโอได้รวดเร็วถึง 21.6 ล้านบิท ต่อ 1 วินาที ซึ่งเป็นความเร็วระดับ 3G Plus (สูงมาก) นั่นหมายความว่าตัวเลขเหล่านี้ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งใช้งานอินเตอร์เน็ทได้เร็วขึ้นนั่นเอง (ความเร็วขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่เลือกใช้เช่นกัน)
3. ราคา
การที่จะซื้อให้คุ้มค่าเงินนั้น ก็ควรตรวจเช็คราคาด้วยเช่นกันเพราะบางรุ่นมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงแต่ราคาถูก ส่วนบางรุ่นประสิทธิภาพในการทำงานต่ำกว่าแต่กลับราคาแพง ดังนั้นในการเลือกซื้อก็อย่าลืมตรวจเช็คราคาให้เหมาะสม เราจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินแพงมากเกินไปกันด้วยนะ
4. ดีไซด์สวยหรู
แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากได้ แอร์การ์ด ขนาดเล็กๆ พกพาสะดวกเพราะจะได้นำไปใช้นอกสถานที่พกพาได้สะดวกๆ แบบเก๋ๆ กันจริงมั้ยล่า ดังนั้นเรื่องดีไซด์กิ๊บเก๋ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพิจารณาเลือกซื้อได้เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น